239 จำนวนผู้เข้าชม |
คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติ 4 ต่อ 1 เสียง อนุญาตการควบรวมธุรกิจระหว่างบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) บริษัทในเครือของเอไอเอส (AIS) และ บมจ.ทริปเปิลที บรอดแบนด์ หรือ 3BB เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เอไอเอส กลายเป็นผู้นำในตลาดบรอดแบรนด์หรืออินเทอร์เน็ตบ้าน แซงหน้าทรู คิดเป็นสัดส่วนการตลาดกว่า 43% จากผู้เล่นในตลาดที่เหลือ 3 ราย
หากอ้างอิงจากรายงานสภาพตลาดโทรคมนาคมจาก กสทช. เมื่อไตรมาส 4/2565 การควบรวมระหว่าง AIS และ 3BB จะทำให้มีผู้ใช้งานรวมกันกว่า 5.8 ล้านผู้ใช้งาน เหนือคู่แข่งจากทรู (บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาด 37.59% หรือคิดเป็นผู้ใช้งานประมาณ 4.9 ล้านผู้ใช้งาน
มติของ กสทช. มาพร้อมกับมาตรการเฉพาะ 22 ข้อ โดยมาตรการหลัก ได้แก่ การให้มีทางเลือกของราคาที่แยกรายบริการ คุ้มครองผู้บริโภคปัจจุบัน โดยให้คงราคารายการส่งเสริมการขายหรือแพ็คเกจ คุณภาพการให้บริการ และแพ็คเกจราคาต่ำสุดนาน 5 ปี ให้กับลูกค้า นับจากวันที่ได้รับอนุญาตให้รวมธุรกิจ
การลงมติ อนุญาต ในครั้งนี้ แตกต่างจากการควบรวมระหว่างทรูและดีแทค ซึ่ง กสทช. ได้ลงมติ "รับทราบ" การควบรวมกิจการ" แต่รายงานข่าวจากประชาชาติธุรกิจ และสำนักข่าวอิศราระบุว่า ครั้งนี้ กรรมการ กสทช. เสียงแตกออกเป็นสองทาง แต่เสียงส่วนใหญ่เห็นชอบว่า กสทช. มีอำนาจในการอนุญาตการรวมธุรกิจ ซึ่งเป็นไปตามข้อ 8 ของประกาศฯ เรื่อง มาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดฯ ปี 2549
หนึ่งในกรรมการ กสทช. ที่ลงมติอนุญาตชี้ว่า การควบรวมส่งผลกระทบในวงจำกัด และมีมาตรการเฉพาะที่ป้องกันได้